26.8.52

focusopen[1]

เส้นทางลัดตรงและเส้นทางคดเคี้ยวดำรงอยู่โดยสัมพันธ์กัน

ถ้าไม่มีเส้นทางคดเคี้ยวดำรงอยู่

ก็ไม่มีเส้นทางลัดตรงปรากฏ

แต่ก็เพราะ มีเส้นทางลัดตรง จึงยิ่งสะท้อนคุณค่าอันพิเศษของเส้นทางคดเคี้ยว

เส้นทางตรง และ เส้นทางคดเคี้ยว ต่างมีความหมายในตัว

ระหว่างจุดสองจุด ความห่างในแง่ เส้นตรงย่อมใกล้กว่าเส้นคด

------------ แต่ในชีวิตที่เป็นจริงนั้น

เส้นทางคดเคี้ยวอาจช่วยให้เราถึงจุดหมายได้ง่ายกว่า

การแก้ปัญหาต่างๆ ในชีวิตนั้น

ไม่มีวิธีการสำเร็จรูปที่จะนำมาใช้ครอบคลุมได้ทั้งหมด

ทุกปัญหาต้องแสวงหาคำตอบจากหลายๆ ทาง เพื่อขจัดความยุ่งยาก

การแสวงหา ก็คือ เส้นทางคดเคี้ยว

เส้นทางชีวิตของตน จะต้องบุกเบิกด้วยตนเอง

      การเดินเส้นทางของคนอื่น ถึงจะประหยัดแรง

             แต่ไม่มีชีวิตชีวา อีกทั้งไม่แน่ว่าจะเดินไปได้ตลอดรอดฝั่ง

                   เส้นทางชีวิตนั้นใหม่ทุกวัน พรุ่งนี้จะเดินอย่างไร เราต้องบุกเบิกเอง

   

เส้นทางชีวิตไม่ได้ราบเรียบลัดตรง แต่เลี้ยวลดคดเคี้ยว เป็นหลุมเป็นบ่อ

           บางครั้งก็สนุกสนาน

                 บางครั้งก็น่าวิตกกังวล

                       บางครั้งเพลี่ยงพล้ำ

                             บางครั้งถูกขัดขวาง

                                    ต้องแผ้วถางทางใหม่ๆ

การแสวงหาของแต่ละคนแตกต่างกันไป

สภาพที่ประสบพบเห็นก็ไม่เหมือนกัน

เรื่องเดียวกัน แต่ใช้วิธีการต่างกัน ก็อาจได้ผลตรงกันข้าม


เพราะฉะนั้น การมีทัศนคติเดินเส้นทางคดเคี้ยว

เตรียมตัวจ่ายความเหนื่อยยากลำบาก และค่าทดแทนตลอดเวลา

รับผิดชอบตนเองด้วยจุดยืนต่อชีวิต

ทำให้เราไม่ละอายตนเองในฐานะนักแสวงหา



การเดินเส้นทางคดเคี้ยว ใช่ว่าเป็นเพราะไม่ต้องการเดินเส้นทางลัดตรง

ถ้ามีเส้นทางที่เหมาะกว่า ย่อมต้องเลือกเดิน




การพลิกแพลงที่มีการตระเตรียม ก็คือการตระเตรียมตนเองจากจุดที่ยากลำบากและซับซ้อนมากที่สุด

ถ้าเตรียมกันแบบง่ายๆ หรือด้านเดียว ก็จะทำให้เราเกิดอาการลน เมื่อเผชิญหน้ากับปัญหา


กาเริ่มจากเส้นทางคดเคี้ยว ก็คือ

การแสดงออกซึ่งการเตรียมตัวจากจุดที่ยากลำบากที่สุดนั้นเอง


2 ความคิดเห็น:

Dorky Girl กล่าวว่า...

อ่านแล้วก็พึ่งจะรู้ว่ารู้สึกตายด้านมากๆ

theZtru- กล่าวว่า...

ใคร ตาย ด้าน - -

บทความที่ได้รับความนิยม

แวะมาแล้ว

ขับเคลื่อนโดย Blogger.